ประวัติความเป็นมาของบ้านดอยดินแดง
สมลักษณ์ ปันติบุญ เจ้าของบ้านดอยดินแดง จะออกตัวว่างานของเขา เปลี่ยนแปลงอะไรโลกไม่ได้เลยก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุดบ้านที่มีผนังผสมด้วยดินแดงในพื้นที่ ก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย ทั้งนี้ยังไม่รวมผลงานศิลปะและธรรมชาติแวดล้อมที่มีความเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน
บ้านดินแดง
ดิน ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในงานเครื่องเคลือบดินเผา สำหรับศิลปินเซรามิคชาวเชียงราย สมลักษณ์ ปันติบุญ กล่าวว่า เขาหลงรักดินของท้องถิ่น ดินสีแดงที่เขานำมาใช้สร้างบ้านและสร้างสรรค์ผลงานเครื่องเคลือบดินเผาที่รู้จักกันในนาม ดอยดินแดง
หลังจากเรียบจบเทคโนโลยีวิทยาเขต เทคนิคภาคพายัพ เชียงใหม่ แล้วเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อศึกษาเพิ่มเติมทางด้านเซรามิคกับอาจารย์ Twao Onuma และ Tarouemon Nakagato เป็นเวลา 5 ปี สมลักษณ์กลับบ้านที่เชียงรายแล้วมาพบดินแดงคุณภาพเหมาะในการใช้งานที่บ้านป่าอ้อ ตำบลนางแล จึงตัดสินใจซื้อที่จำนวน 9 ไร่ สร้างเป็นบ้าน สตูดิโอ และช้อป ขึ้นเมื่อ 19 ปีที่แล้ว
สมลักษณ์ ปันติบุญ กับผลงานศิลปะชุดล่าสุด The Still Voice of the Forest ภายในสตูดิโอดอยดินแดง
"เดิมที่นี่เป็นป่าชะอม ต้นไม้ที่เห็นในวันนี้เป็นต้นที่ปลูกขึ้นมาใหม่ บางส่วนก็ขึ้นเองตามธรรมชาติ งานของผมเป็นงานคราฟท์ เป็นศิลปะที่ทำด้วยมือสืบเนื่องจากของโบราณ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของผม ส่วนงานเซรามิคอาร์ต เป็นงานที่ตอบสนองตนเองเป็นสำคัญ"
ศิลปินอธิบายถึงงานเซรามิคของดอยดินแดงที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน กล่าวคือ งานเซรามิคประเภทเครื่องถ้วย จาน ชาม ที่ใช้บนโต๊ะอาหาร รวมไปถึงแจกัน กระถาง และเครื่องประดับตกแต่งอาคาร กับผลงานศิลปะที่แฝงไปด้วยความรู้สึก จินตนาการ และเทคนิคเฉพาะตน
"ในการทำงานผมใช้ดินที่มีอยู่ในท้องถิ่น เนื่องจากเชียงรายมีภูเขาเยอะ วัตถุดิบที่นำมาใช้ก็ได้มาจากในท้องถิ่นนี่ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นขี้เถ้าฟาง ขี้เถ้าไม้ไผ่ ล้วนเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำมาเคลือบผิวให้เกิดสีสัน อย่างเช่นสีฟ้าก็ได้จากขี้เถ้าฟาง ขี้เถ้าไม้ไผ่
ส่วนดินแดงที่อยู่ในดิน เราก็นำมาทำฝาผนังสีอุ่นๆ โดยผสมเข้าไปในปูนเลย หลายคนคิดว่าเราสร้างบ้านดินแต่ไม่ใช่ เหตุผลที่ใช้ดินผสมเข้า
ผนังบ้านที่ผสมดินสีแดงกับปูนซีเมนต์
"ตอนที่เราทำบ้านเราก็ขุดดินขึ้นมาแยกไว้เลย 1 กอง สำหรับทำสีผนัง เน้นที่ประหยัด สิ่งแวดล้อมดี โจทย์ของเราคือ ดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย"
แหล่งเรียนรู้
การทำงานโดยยึดแบบแผนโบราณด้วยการขึ้นรูปภาชนะด้วยมือ และใช้เทคนิคการปั้น เผา เคลือบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กลายเป็นจุดเด่นและจุดแข็งที่ทำให้เหล่านักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจงานศิลปะแขนงนี้ ติดต่อขอเข้าชมการทำงานอยู่แทบทุกวัน
บ้านดอยดินแดงในวันนี้จึงมีทั้งโรงปั้นที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้ชมวิธีการทำงานและสามารถสอบถามพูดคุยกับช่างได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังสามารถพูดคุยกับศิลปินถึงวิธีคิดและขั้นตอนการทำงานศิลปะได้ หากมีการนัดหมายล่วงหน้า
ถ้วยกาแฟคาปูชิโน่
นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอของศิลปิน ห้องแสดงงานเซรามิคอาร์ต ห้องแสดงสินค้าประเภทตกแต่ง ช้อปสำหรับขายสินค้าประเภทเทเบิ้ลแวร์ และล่าสุดเจ้าของบ้านได้เปิดมุมร้านกาแฟไว้อำนวยความสะดวกสำหรับแขกที่มาเยือนอีกด้วย
"สำหรับนักศึกษาที่เข้ามาดูงาน บางคนถามว่างานปั้นมืออย่างนี้จะอยู่รอดได้มั้ย เราก็พยายามสอนเขาเรื่องการพึ่งพาตัวเอง การเป็นศิลปินต้องรู้จักพึ่งตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักการพึ่งพาอาศัยกันด้วย ถ้าเราใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ ทำงานดี อยู่รอดแน่นอน"
การปลูกต้นชากลายเป็นงานอดิเรกที่ผมรักและชอบไปทีเดียว และอีกอย่างหนึ่งที่ชอบที่สุด คือ การเก็บสะสมเมล็ดของต้นไม้ป่า เมล็ดของไม้ผล และพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันช่างมีรูปร่างที่แปลก มีปริมาตรที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเหมือนเป็นงานประติมากรรม ออร์แกนิค ฟอร์มที่เกินกว่ามนุษย์จะคิดได้เลยทีเดียว"
ใบชาที่ปลูกไว้เป็นงานอดิเรก กลายมาเป็นชาร้อนกลิ่นหอมให้แขกผู้มาเยือนดื่มท่ามกลางความร่มเย็นของแมกไม้ที่ดูเหมือนป่าขนาดย่อม และอีกไม่นานที่ร้านกาแฟเปิดใหม่ก็จะวางขายชาดอยดินแดงผลผลิตจากงานอดิเรก
ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่เก็บสะสมไว้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานเซรามิคชุดล่าสุด The Still Voice of the Forest ที่เคยนำมาจัดแสดงที่ หอศิลป์ร่วมสมัยอาร์เดล เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และนำมาจัดแสดงในสตูดิโอดอยดินแดงในขณะนี้
ในงานแสดงผลงานชุดนี้ สมลักษณ์ได้ให้ความเห็นต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในทั่วโลกเอาไว้อย่างน่าคิดว่า
"ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะเกิดจากค่านิยมการบริโภคนิยมของมนุษย์โลก และการจัดการที่จะให้ความสมดุลของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับคืนมานั้น ดูจะหมดหนทางถ้าเป็นอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้ แต่สำหรับผมแล้ว ผมยังมีความหวังทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อสนองตอบต่อตนเองและเท่าที่ตัวผมเองจะทำได้ และยังมีความหวังกับมนุษย์ร่วมโลกที่อุทิศแรงกายแรงใจและมีความคิดไปในทำนองเดียวกันซึ่งมีจำนวนมากขึ้น และมากขึ้นทั่วทั้งโลก
ตัวผมเอง ผมยังมีต้นกล้าแห่งความหวัง ต้นกล้าไม้ต้นหนึ่งก็คงเปรียบเหมือนมนุษย์หนึ่งคน ถ้าได้เพาะบ่มให้ดี มีดินมีน้ำที่ดีก็จะเติบโตเป็นต้นไม้แห่งความหวังได้ ผลิดอกออกผลต่อไปจนไม่มีที่สิ้นสุด
จุดหมายในการทำงานของผมครั้งนี้ ก็เพื่อการตอบสนองตนเองเป็นสำคัญ แต่อย่างน้อยถ้างานของผมทำให้ผู้คนได้รำลึกถึงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองอาศัยอยู่บ้าง ผมก็มีความพอใจและถือว่าบรรลุความสำเร็จอย่างสูงสุดแล้ว เพราะงานของผมเปลี่ยนแปลงอะไรโลกไม่ได้เลย"
มาถึงบรรทัดนี้แล้วไม่แปลกใจเลย ที่บ้านดอยดินแดงไม่เคยขาดแคลนผู้มาเยือน
หมายเหตุ : ดอยดินแดง เครื่องปั้นดินเผา 49 หมู่ 6 ซอย 3 บ้านป่าอ้อ ถ.พหลโยธิน ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย 57100 โทร.0-5370-5291 เปิด 08.30-16.00 น. ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ (6 กม.จากสนามบินเชียงรายมุ่งหน้าไปทาง อ.แม่สาย ดอยดินแดงจะอยู่ทางด้านขวามือในซอยเดียวกับหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว เข้าซอยประมาณ 2 กม.)
ภาพบรรยากาศเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น